Stochastics เป็นอีกเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่ช่วยให้เราตัดสินใจที่ซึ่งเทรนด์กําลังใกล้จะจบ คํานิยามของ stochastic คือ oscillator (เครื่องมือที่บอกการแกว่งตัว) ซึ่งสามารถบอกปริมาณว่า เกิดการ overbought และ oversold (มีการซื้อมากเกินไป และ ขายมากเกินไป) ในภาวะของตลาด เส้นสองเส้น คล้าย ๆ กันกับ เส้น MACD ในกรณีกับเดียวกันคือ เส้นหนึ่งเร็วกว่าอีกเส้นหนึ่ง

เราจะประยุกต์ใช้ Stochastics ได้อย่างไร
เหมือนอย่างที่เราได้พูดก่อนหน้านี้ Stochastics จะบอกเราว่าเมื่อไหร่ตลาดจะ Overbought และ Oversold (สัญญาณที่แสดงว่ามีการซื้อเยอะเกินไป และ ขายเยอะเกินไป) Stochastics มีมาตรวัดเป็นค่า ตัวเลข จาก 0 ถึง 100 เมื่อเส้น Stochastic อยู่เหนือค่า 80 เส้นประเส้นตรงที่อยู่ในกราฟข้างบน) นั่น หมายความว่าตลาดมีการซื้อเยอะเกินไป และเมื่อ Stochastic ต่ํากว่าเส้น 20 (เส้นประสีน้ําเงินที่อยู่ด้านล่างของเส้น Stochastics) นั่นหมายความว่าตลาดมีการขายเยอะเกินไป จากการที่เราตั้งกฎมาแบบนี้ เราจะซื้อเมื่อตลาดเกิดภาวะ Oversold และเราจะขายเมื่อตลาดเกิดการ overbought.

Overbought
มองดูที่กราฟข้างบน คุณจะเห็นว่าเส้น Stochastic แสดงให้เห็นถึงว่าภาวะตลาดเป็น Overbought ในช่วง เวลานั้น ๆ ด้วยข้อมูลนี้คุณสามารถทํานายราคาได้ว่าราคาจะไปในทิศทางใด?

ถ้าคุณเดาว่าราคาจะปรับตัวลง คุณถูกอย่างแน่นอนที่สุดเพราะว่า เมื่อตลาดเกิดภาวะ Overbought ใน เวลานาน ๆ การเกิดเทรนด์ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้น
นี่เป็นพื้นฐานของ Stochastic เทรดเดอร์หลาย ๆ คนใช้ stochastic ในหลาย ๆ แบบ แตกต่างกันแต่ จุดประสงค์หลักของการใช้ อินดิเคเตอร์เพื่อจะบอกเราว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought และ Oversold ที่ ผ่านมาคุณได้เรียนรู้วิธีการใช้ Stochastic ให้เหมาะกับรูปแบบการเทรดของตัวคุณเอง